News

“โนโวเทลสุวรรณภูมิ” ทุ่ม 360 ล้านรีโนเวต อัปเกรดห้องพรีเมียมปั้นรายได้ปี 63 แตะพันล้าน

“โนโวเทลสุวรรณภูมิ” เผยผลประกอบการปี 60 กำไรสุทธิเกือบ 140 ล้าน อัตราเข้าพักเฉลี่ยกว่า 74% เตรียมทุ่มงบ 360 ล้าน รีโนเวตครั้งใหญ่ปรับโฉมห้องพัก เสร็จปี 62 ดึงลูกค้าระดับพรีเมียม อัปราคาขายเพิ่มอีก 35% ตั้งเป้ารายได้ปี 63 แตะ 1,000 ล้าน ล้างขาดทุนสะสม 236 ล้านหมดใน 2 ปี

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด (รทส.) ผู้บริหารโรงแรม “โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต” เปิดเผยว่า ผลประกอบการในปี 2560 (ต.ค. 59 - ก.ย. 60) บริษัทฯ มีรายได้ที่ 844.69 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 626.39 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 139.93 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดในรอบ 11 ปี ซึ่งแม้รายได้ปี 60 จะต่ำกว่า ปี 59 ที่มีรายได้ 849.73 ล้านบาท แต่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า และมีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 82.47% ทำให้กำไรสุทธิเติบโตกว่าปีก่อนถึง 74.30% 

โดยบริษัทฯ เตรียมลงทุนประมาณ 360 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยจะปรับปรุงห้องพัก 1 ใน 3 หรือ 200 ห้องจากทั้งหมด 612 ห้อง ยกระดับเป็นห้องพักมาตรฐานระดับพรีเมียม ซึ่งจะสามารถปรับราคาขายได้เพิ่มขึ้นอีก 35% จากราคาเฉลี่ยที่ 3,000-6,000 บาท/คืน (อัตราตามฤดูกาล) ส่วนอีก 400 ห้องจะเป็นมาตรฐาน 4 ดาวปกติ นอกจากนี้จะมีการปรับปรุงล็อบบี้และห้องอาหารทั้งหมด และเพิ่มสปอร์ตบาร์ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี (61-62) เมื่อแล้วเสร็จคาดว่าจะทำให้มีรายได้จะโตแบบก้าวกระโดดเป็น 1,000 ล้านบาทในปี 2563 แน่นอน ขณะที่ปี 61-62 รายได้และกำไรจะอยู่ในระดับเดียวกับปี 60 เนื่องจากจะต้องมีการปิดห้องพักบางส่วนปรับปรุง 

ทั้งนี้ การปรับปรุงดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ประกอบกับเพื่อรองรับสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ที่จะมีการขยายขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวในระดับกลางขึ้นไปเดินทางมากขึ้นซึ่งเป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงซึ่งลูกค้าหลักจะเป็นต่างชาติ 70% เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนไทยประมาณ 20-30% ขณะที่จัดห้องสำหรับลูกเรือและเที่ยวบินดีเลย์ ประมาณ 20-25% 

ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการยกระดับบริการที่มีคุณภาพ โปรแกรมการตลาดส่งเสริมการขายในหลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า เช่น การให้บริการ 24 Hours Flexi โดยลูกค้าสามารถยืดหยุ่นเวลาเช็คอิน เวลาไหนก็ได้ นับเวลาเข้าพัก 24 ชั่วโมง จ่าย 1 คืน พร้อมอาหารฟรี 1 มื้อจะเลือกมื้อไหนก็ได้ เป็นโรงแรมสนามบินแห่งเดียวที่ทำได้ และมีโปรแกรม Day Use Offer สำหรับเข้าพักในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างวัน 3, 6, 9 ชม. ซึ่งทำให้พลิกผลประกอบการจากขาดทุนกลับมามีกำไรได้ ขณะที่ขาดทุนสะสม 236 ล้านบาท จะหมดไปภายใน 2 ปีหลังจากนี้เช่นกัน 

ทั้งนี้ โรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ มีการขาดทุนสะสมตั้งแต่ปี 2550 ที่ 283.22 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นสูงสุดในปี 2554 ที่ 654.55 ล้านบาท จากนั้นได้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงาน ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด สร้างโปรแกรมส่งเสริมการขาย บริการมีความยืดหยุ่นสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ด้วยคุณภาพระดับ 5 ดาว แต่ควบคุมต้นทุนการบริหารระดับ 4 ดาว มีจุดเด่นและใช้ทำเลที่เป็นประตูของประเทศ ทำให้สามารถลดการขาดทุนสะสมได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 ลงมาจนถึงปี 2560 เหลือขาดทุนสะสมที่ 236.67 ล้านบาท 

สำหรับบริษัทฯ เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) 60% บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 30% และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 10% วงเงินลงทุน 1,017.78 ล้านบาท ว่าจ้าง “กิจการร่วมค้ายูนิเวอร์แซล ฮอสพิแทลลิที” เป็นผู้บริหารกิจการโรงแรมในลักษณะ Hotel Chain ภายใต้เครื่องหมาย “NOVOTEL” ของ “กลุ่ม ACCOR”